ภาษาพาที
บทที่ 1
ดูละครย้อนคิด
บ่ายวันเสาร์ที่ผ่านมา เป็นวันหยุดที่แสนสนุกคละเคล้ากับความประทับใจที่มีค่ามาก วันนั้นคุณยายพาฉันและน้องไปชมการแสดงที่โรงละครแห่งชาติ ซึ่งมีการแสดงละครนอกเรื่อง มโนราห์
เราไปถึงโรงละครเวลา 13.30 น. ก่อนเริ่มการแสดงครึ่งชัวโมง มีนักศึกษาจากสถาบันนาฏดุริยางศิลป์มาคอยต้อนรับและแจกสูจิบัตรและพาไปนั่งตามเลขที่บัตร มีคณะนักเรียนจากโรงเรียนต่าง ๆ
เหมารถกันมาชมอย่างคับคลั่ง โชคดีคุณยายจองตั๋วล่วงหน้า จึงมีที่นั่งชมการแสดงไม่ต้องผิดหวังเหมือนกับบางกลุ่ม ที่ต้องยืนคอยอยู่ข้างนอกเพื่อรอว่าจะมีที่ว่างหรือไม่ ทำให้ฉันเข้าใจว่า โรงละครแห่งนี้ยังเป็นที่นิยมของคนไทย โดยเฉพาะเมื่อมีการแสดงที่น่าสนใจ
ผ่านในโรงละครมรแสงสว่างพอให้เห็นรางๆ อากาศเย็นสบายจากเครื่องปรับอากาศที่เงียบสนิท เก้าอี้นั่งปรับเอนได้ตามต้องการการจัดเก้าอี้เป็นแนวโค้ง เป็นชั้นลดหลั่นจากด้านหลังลงไปสู่ด้านหน้าจุดรวมความสนใจอยู่ที่เวทีการแสดง ซึ่งกั้นไว้ด้วยผ้ากำมะหยี่สีแดงขนาดใหญ่ ตรงกลางปักเป็นภาพพระพิฆเนศ ทางซ้ายของเวทีเป็นโต๊ะหมู่ประดิษฐานเศียรครูบาอาจารย์ ซึ่งเป็นที่เคารพของโขนละครมีทั้งเศียรฤาษี เศียรพระ เศียรนาง
และเศียรยักษ์
ทางขวาของเวทีเป็นที่นั่งของคณะปี่พาทย์เครื่องใหญ่ รวมทั้งผู้พากย์เสียงและผู้ขับร้องประกอบการแสดง บรรยากาศในโรงละครเงียบสงบ เสียงเพลงทำนองไทยเดิมไพรเราะน่าฟัง
แว่วมาจากเครื่องเสียงโรงละคร ปรับอารมณ์ของผู้รับชมได้ให้อยู่ในความสงบ สำรวม และพร้อมที่จะเข้าสู่โลกแห่งห้วงฝัน โลกแห่งความบันเทิงที่แสนจะเพลิดเพลินและเป็นสุข
ฉันนั่งรอด้วยการอ่านสูจิบัตรการแสดง ซึ่งจัดทำเป็นแผ่นพับที่สวยงาม พิมพ์เรื่องย่อและรายชื่อผู้แสดงไว้ มีเสียงประกาศเตือนผู้ชมก่อนเริ่มการแสดงเป็นภาษาไทยและภาษาอังกฤษว่า ห้ามถ่ายภาพห้ามนำของมารับประทาน และให้ปิดเครื่องมือสื่อสารทุกชนิด
พี่ตุ๊ดตู่ ถ้าเขาห้ามอย่างนี้ ติ๊ดตี่เอากล้องมาก็หนักเปล่า
ๆ นะซี ติ๊ดตี่พูดอย่างเซ็ง ๆ
ก็เขาประกาศเตือนไว้แล้ว ไม่ให้ถ่ายก็อย่าทำ เราควรปฏิบัติตามกฎระเบียบของโรงละครนะน้อง ตุ๊ดตู่พูดตอบ
ต้อยติ่งมีขนมกรอบติดมา แอบรับประทานเงียบ ๆ จะได้ไหมพี่ตุ๊ดตู่ ต้อยติ่งต่อรอง
คุยอะไรกันจ๊ะหลาน จะเริ่มการแสดงแล้ว จ้องเงียบเสียงนะจ๊ะ คุณยายชะโงกหน้ามาถามเบา ๆ
ติ๊ดตี่นำกล้องมาจะถ่ายภาพ ต้อยติ่งจะขอแอบรับประทานอาหารขนมกรอบเงียบ ๆ
จะได้ไหมคะคุณยาย
ตุ๊ดตู่กระซิบตอบด้วยน้ำเสียงที่น่าสงสารน้อง
คุณยายจึงแลกที่นั่งกับตุ๊ดตู่มาอยู่ระหว่างกลางหลานๆ และพูดเบา ๆ ว่า ผู้เขาชมการแสดงทุกคนเข้ามาหาความบันเทิง ความสนุกสนาน ความซาบซึ้งและเกิดสุนทรียภาพจากการแสดง ซึ้งทำให้ใจเป็นสุข การชมการแสดงที่มีคนมากจึงต้องมีข้อกำหนดให้ทุกคนปฏิบัติตาม เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อย เช่น ให้ช่วยกันรักษาความสะอาด การนำของเข้ามารับประทานทำให้มีเสียงกรอบแกรบรบกวนผู้อื่น การถ่ายภาพมีแสงสว่างวูบวาบ ซึ่งทั้งเสียงและแสงรบกวนสมาธิ ทั้งยังอาจมีผลกระทบที่เราคาดไม่ถึง ต่อระบบควบคุมอิเล็กทรอนิกส์ภายในโรงละครได้ คุณยายอธิบาย
นอกจากนั้นการแสดงก็เป็นลิขสิทธิ์ของโรงละคร ซึ่งไม่อนุญาตให้ผู้ใดนำภาพไปเผยแพร่ โดยเฉพาะด้านการค้า ซึ่งเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ด้วย เข้าใจแล้วใช่ไหม มาเตรียมดูละครกันดีกว่าคุณยายอธิบายเพิ่มเติม
พลันแสงสว่างค่อยๆลดลง พร้อมกับมีเสียงปี่พากย์บรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี ทุกคนลุกขึ้นยืนตรงอย่างสงบ เมื่อเพลงจบก็ถวายความเคารพ และนั่งชมการแสดงที่กำลังจะเกิดขึ้น มีเสียงปรบมือเมื่อม่านเปิด
คุณยายขาติ๊ดตี่ลำคราญคนนั่งข้างหลัง คุยโทรศัพท์อยู่ได้ เด็กที่นั่งข้าง ๆ ก็อมลูกอมเสียงดังจ๊วบๆ ติ๊ดตี่ไม่ชอบเลย ติ๊ดตี่พูด
ดีแล้วที่ติ๊ดตี่ไม่ทำแบบนั้นไม่สร้างความรำคราญให้ใคร คุณยายพูดอย่างชื่นชม
การแสดงดำเนินไปอย่างสนุกสนาน น่าตื่นเต้นและเร้าใจ ผู้ชมทุกคนประหนึ่งต้องมนต์สะกดให้คล้อยตามเรื่องไปตั่งแต่ต้นจนจบทุกคนเดินออกจากโรงละครด้วยใชหน้าที่อิ่มเอมประทับใจ
คุณยายขาโตขึ้นต้อยติ่งจะเรียนนาฏศีลป์ต้อยติ่งอยากรำมโนราห์ต้อยติ่งพูดอย่างร่าเริงขณะชวนกันเดินกลับไปขึ้นรถ
ดีจ๊ะ การรำเป็นศีลปะไทยที่งดงาม ที่เยาวชนควรสืบสารไว้ถ้าหนูอยากฝึกรำ ยายจะพาไปสมัครเรียนเสริมหลังเลิกเรียนและในวันหยุดติ๊ดตี่ละจะเรียนด้วยไหม คุณยายอธิบายและชักชวน
ติ๊ดตี่ไม่ชอบรำ แต่งชอบแสดงเป็นลิง เขาออกท่าทางได้เหมือนจริง
ๆ เขาทำได้อย่างไรคะ เจี๊ยก
โทน โทน
เจี๊ยก โทน
โทน….. ติ๊ดตี่พูดพลางทำท่าทางประกอบชวนให้ทุกคนหัวเราะ
น่าภูมิใจที่เราเกิดเป็นคนไทย ชาติไทยเรามีวัฒนธรรมที่งดงามน่าประทับใจกับการแสดง การร่ายรำ การร้องเพลง
การประกอบดนตรี ก็ผสมผสานกันได้อย่างน่าอัศจรรย์ เป็นความจรรโลงใจที่ไม่เร่าร้อนแต่ซาบซึ้ง และก่อให้เกิดสุนทรียภาพ คุณยายพูด หลานๆ ต่างยิ้มรับและพยักหน้าเป็นเชิงเห็นด้วย
ลิขสิทธิ์ของสำนักงานคณะกรรมการศึกษาขั้นพื้นฐาน
กระทรวงศึกษาธิการ ถนนราชดำเนินนอก เขตดุสิต กรุงเทพฯ 10300
โทรศัพท์และโทรสาร 0 2628 5343
ISBN 974-01-5242-2
พิมพ์ครั้งที่ 2
พ.ศ. 2549
จำนวน 500,000เล่ม